วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

เคาะลีฟะห์ของราชวงศ์อับบาซียะห์

             ราชวงศ์ที่สืบทอดการปกครองในระบอบคิลาฟะฮฺภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์อัลอุม่าวียะฮฺในนครดามัสกัส,  มีอำนาจอยู่ระหว่างปี ฮ.ศ.132-656 / คศ.750-1259,  สืบเชื้อสายถึงท่านอัลอับบ๊าส  ลุงของท่านศาสดามุฮำมัด  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม),  มีธงสีดำเป็นสัญลักษณ์,  รัฐคิลาฟะฮฺแห่งอิสลามได้บรรลุถึงความเจริญสุดขีดในรัชสมัยของพวกอับบาซียะฮฺ

            การปฏิวัติลุกฮือของพวกอัลอับบาซียะฮฺได้เริ่มขึ้นในแคว้นคุรอซาน  ภายใต้การนำของอบูมุสลิม  อัลคุรอซานีย์หลังจากมีการเรียกร้องอย่างลับ ๆ อยู่ราวครึ่งศตวรรษ  ในปี ฮ.ศ.130 / คศ.748  ค่อลีฟะฮฺท่านแรกของราชวงศ์คือ  อบุลอับบ๊าส  อัซฺซัฟฟาฮฺ  ซึ่งถูกให้สัตยาบันในมัสญิดแห่งนครอัลกูฟะฮฺ  และสามารถสร้างความปราชัยแก่พวกวงศ์อัลอุม่าวียะฮฺ  โดยค่อลีฟะฮฺมัรวานที่  2  ค่อลีฟะฮฺคนสุดท้ายของราชวงศ์อัลอุม่าวียะฮฺได้ถูกสังหาร  และอับดุรเราะฮฺมาน  อัดดาคิลสามารถหลบหนีไปยังแคว้นอัลอันดะลุส, 


            ต่อมาค่อลีฟะฮฺอัลมันซู๊รได้สืบอำนาจต่อจากอัซซัฟฟาฮฺ  และปราบปรามการจลาจลวุ่นวายจนสามารถสร้างเสถียรภาพให้แก่ราชวงศ์อัลอับบาซียะฮฺ,  ในเวลาต่อมา,  ค่อลีฟะฮฺอัลมันซุ๊รได้สร้างนครแบกแดดขึ้นเป็นราชธานี 


        นครแบกแดดได้กลายเป็นนครแห่งอารยธรรมอันเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านวรรณกรรมและสรรพวิทยาตลอดช่วงระยะเวลาหลายศตวรรษในยุคกลาง,  มีบรรดาค่อลีฟะฮฺที่เลื่องลือหลายท่าน  อาทิเช่น  ฮารูน  อัรร่อชีดฺ  ซึ่งต่างก็อุปถัมภ์บรรดานักปราชญ์  นักกวีเป็นจำนวนมาก 


           ต่อมาค่อลีฟะฮฺอัลมุอฺตะซิม  บิลลาฮฺ  ได้สร้างนครซามัรรออฺขึ้นเป็นราชธานีแห่งใหม่ในระหว่างปี คศ.836-892  จนกระทั่งคอลีฟะฮฺอัลมุอฺตะมิด  บิลลาฮฺ  ได้ย้ายราชธานีกลับมายังนครแบกแดดอีกครั้ง,  ภายหลังการลอบสังหารค่อลีฟะฮฺอัลมุตะวักกิล  บิลลาฮฺ  ในปี ฮ.ศ.247 / คศ.861 


            พวกเติร์กที่เป็นแม่ทัพก็เข้ามามีอิทธิพลเหนือบรรดาค่อลีฟะฮฺตลอดช่วงเวลาราว  1  ศตวรรษ  ทำให้อาณาจักรอัลอับบาซียะฮฺอ่อนแอลง  และเป็นผลทำให้มีรัฐอิสระเกิดขึ้นเป็นอันมาก  อาทิเช่น  พวกฏูลูนียะฮฺ,  พวกอัลอิคฺชีดียะฮฺ  และพวกอัลฟาฏีมียะฮฺ  ซึ่งซ่อลาฮุดดีน  อัลอัยยูบีย์ได้ยุบเลิกราชวงศ์ของพวกเขาลง,  และพวกอัลฮัมดานียะฮฺในนครฮะลับ  (อเล็ปโป), 


            ต่อมาในปี ฮ.ศ.334 / คศ.945  พวกอัลบุวัยฺฮียูนฺได้เข้ามายึดครองนครแบกแดดเอาไว้  ทำให้บรรดาค่อลีฟะฮฺในราชวงศ์อัลอับบาซียะฮฺกลายเป็นเครื่องเล่นของพวกเขา,  ในปี ฮ.ศ.447 / คศ.1055  ตุฆรุ้ล  เบก  อัซซัลฺจูกีย์ได้เข้ายึดครองนครแบกแดดและประกาศการสิ้นสุดอำนาจของพวกอัลบูวัยฮียูน,  พวกมองโกลได้รุกรานและเข้าทำลายนครแบกแดด  โดยฮูลากูได้สังหารค่อลีฟะฮฺ  อัลมุซตะอฺซิม  บิลลาฮฺ  ซึ่งทำให้ราชวงศ์อัลอับบาซียะฮฺสิ้นสุดลง


บรรดาค่อลีฟะฮฺในราชวงศ์อัลอับบาซียะฮฺ 

1. อัซฺซัฟฺฟาฮฺ          (ฮ.ศ.132/คศ.750)
2. อัลมันซูร             (ฮ.ศ.136/คศ.754)
3. อัลมะฮฺดีย์           (ฮ.ศ.158/คศ.775)
4. อัลฮาดีย์             (ฮ.ศ.169/คศ.785)
5. ฮารูน  อัรร่อชีด   (ฮ.ศ.170/คศ.786)
6. อัลอะมีน             (ฮ.ศ.193/คศ.809)
7. อัลมะอฺมูน           (ฮ.ศ.198/คศ.813)
8. อัลมุอฺตะซิม        (ฮ.ศ.218/คศ.833)
9. อัลฺวาซิก             (ฮ.ศ.227/คศ.842)
10. อัลมุตะวักกิล     (ฮ.ศ.232/คศ.847)
11. อัลมุนตะซิรฺ       (ฮ.ศ.247/คศ.861)
12. อัลมุสตะอีน       (ฮ.ศ.248/คศ.862) 
13. อัลมุอฺตัซฺซุ        (ฮ.ศ.252/คศ.866)
14. อัลมุฮฺตะดีย์       (ฮ.ศ.255/คศ.869)
15. อัลมุอฺตะมิด       (ฮ.ศ.256/คศ.870)
16. อัลมุอฺตะฎิด       (ฮ.ศ.279/คศ.892)
17. อัลมุกตะฟีย์       (ฮ.ศ.289/คศ.902) 
18. อัลมุกตะดิรฺ       (ฮ.ศ.295/คศ.908)

19. อัลกอฮิรฺ           (ฮ.ศ.320/คศ.932) 
20. อัรรอฎีย์            (ฮ.ศ.322/คศ.934)
21. อัลมุตตะกีย์      (ฮ.ศ.329/คศ.940)
22. อัลมุสตักฟีย์      (ฮ.ศ.333/คศ.944)  
23. อัลมุฏีอฺ             (ฮ.ศ.334/คศ.946)
24. อัฏฏออิอฺ          (ฮ.ศ.363/คศ.974)
25. อัลกอดิรฺ           (ฮ.ศ.381/คศ.991)
 26. อัลกออิมฺ          (ฮ.ศ.422/คศ.1031)
27. อัลมุกตะดีย์      (ฮ.ศ.467/คศ.1075)
28. อัลมุสตัซฮิรฺ      (ฮ.ศ.487/คศ.1094)
29. อัลมุซตัรฺชิดฺ      (ฮ.ศ.512/คศ.1118)
30. อัรรอชิดฺ           (ฮ.ศ.529/คศ.1135)
31. อัลมุกตะฟีย์      (ฮ.ศ.530/คศ.1136)
32. อัลมุสตันญิด     (ฮ.ศ.555/คศ.1160)
33. อัลมุซตะฎีอฺ      (ฮ.ศ.566/คศ.1170)
34. อันนาซิรฺ           (ฮ.ศ.575/คศ.1180)
35. อัซซอฮิรฺ          (ฮ.ศ.622/คศ.1225)
36. อัลมุสตันซิรฺ      (ฮ.ศ.623/คศ.1226)
37. อัลมุสตะอฺซิม    (ฮ.ศ.640-656/คศ.1242-1258)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น